วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555
วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555
ภาระงานที่ 1
ภาระงานที่ 1 : การวิเคราะห์เนื้อหาและกำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ ( content analysis )
ชื่อบทเรียน คำคล้องจอง
หัวข้อเนื้อหา / วัตถุประสงค์การเรียนรู้
|
รายละเอียดของเนื้อหา
|
หัวข้อเนื้อหา
1 . ความหมายของคำคล้องจอง
2 . คำคล้องจอง 1 พยางค์
3 . คำคล้องจอง 2 พยางค์
วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
เมื่อผู้เรียนเรียนบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์หัวข้อเนื้อหานี้แล้ว ผู้เรียนสามารถบอกได้ว่าคำคู่ใดเป็นคำคล้อง
จองหรือไม่ใช่คำคล้องจอง เมื่อกำหนดคำให้ นักเรียนสามารถหาคำคล้องจองกับคำที่กำหนดให้ต่อไปได้
|
1 . คำคล้องจอง คือ คำที่มีเสียงพยัญชนะ หรือเสียงสระคล้องจองกัน เช่น คำที่มีเสียงสระคล้องจองกัน
ตา มา ปา ทา, ดู รู สู้ หู, คำที่มีเสียงพยัญชนะคล้องจองกัน หนู หมู หรู หมี, โคลง
คลอน คลาด
และหากมีตัวสะกดมักจะมีเสียงตัวสะกดอยู่ในมาตราเดียวกัน เช่น การ งาน จาน หาร
2
.คำคล้องจอง ๑ พยางค์ คือ คำ ๑ พยางค์ ตั้งแต่ ๒ คำขึ้นไปที่มีเสียงสระเดียวกันและมีตัวสะกดในมาตรา
เดียวกัน เช่น ใกล้ ใคร ใช่ ไป ให้ ถู หู ดู ชู รู
3 . คำคล้องจอง ๒ พยางค์ คือ คำ ๒ พยางค์ตั้งแต่ ๒ คำขึ้นไปที่พยางค์หลังของคำแรก มีเสียง
คล้องจองกับพยางค์แรกของคำหลัง
หรือมีเสียงคล้องจองกับพยางค์หลังของคำหลัง เช่น ปลูกข้าว สาวสวย ห้วยหนอง คลองบึง ผึ้งหลวง ทวงของ
|
สรุปการออกแบบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
การสอน/การทบทวน (tutorial instruction)
บทเรียนประเภทนี้ เป็นรูปแบบของบทเรียนช่วยสอนด้วยคอมพิวเตอร์ที่มีผู้พัฒนากันมากที่สุด ประมาณกันว่ามากกว่าร้อยละ 80 ของบทเรียนคอมพิวเตอร์ทั่วโลกจะเป็นประเภทนี้เนื่องจากมีพื้นฐานการพัฒนาขึ้นจากความเชื่อที่ว่า คอมพิวเตอร์น่าจะเป็นสื่อประเภทอุปกรณ์ที่ช่วยให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการเรียนจากชั้นเรียน กล่าวโดยสรุปก็คือ น่าจะใช้แทนครูได้ในหลายๆ หมวดวิชา แนวคิดตรงนี้มีพื้นฐานในมุมกว้างว่า การเรียนการสอนนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แต่ในโรงเรียนประถมศึกษา มัธยมศึกษา หรืออุดมศึกษาเท่านั้น แต่ยังขยายกว้างไปถึงการฝึกอบรม (Training) ในระดับและสาขาอาชีพต่างๆ ซึ่งอาจผสมผสานการสอน การเรียนรู้และการฝึกฝนด้วยตนเองในหลายๆ รูปแบบ
วัตถุประสงค์เพื่อการสอนเนื้อหาใหม่แก่ผู้เรียน มีการแบ่งเนื้อหาเป็นหน่วยย่อย มีคำถามในตอนท้าย ถ้าตอบถูกและผ่าน ก็จะเรียนหน่วยถัดไป โปรแกรมประเภท Tutorial นี้มีผู้สร้างเป็นจำนวนมากเป็นการนำเสนอโปรแกรมแบบสาขาสามารถสร้างเพื่อสอนได้ทุกวิชา
วิธีสอนโดยการทบทวน
ความมุ่งหมาย
- เพื่อทบทวนบทเรียนให้เข้าใจง่าย
- เพื่อสรุปประเมินผลความเข้าใจในบทเรียน
ขั้นตอนของการสอน
- กล่าวถึงเนื้อหาของบทเรียนที่เรียนแล้ว
- ตั้งคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาบทเรียนที่ต้องการให้ทบทวน
- ให้อภิปรายเพื่อค้นหาคำตอบสำหรับคำถาม ของเนื้อหาที่ต้องการให้ทบทวน
- สรุปเพื่อตัดสินคำตอบเกี่ยวกับเนื้อหาที่ต้องการให้ทบทวน
ข้อดีและข้อจำกัดของการสอนโดยการทบทวน
ข้อดี
- ช่วยให้นักศึกษาได้เห็นถึงความสัมพันธ์และความเกี่ยวข้องกันของเนื้อหาอย่างชัดเจน
- ทำให้นักศึกษามีความคงทนมากขึ้น
- เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับกิจกรรมในแต่ละวัน
- เป็นเครื่องมือช่วยวัดจุดสำคัญของบทเรียน
- เป็นการเชื่อมโยงเนื้อหาให้เกิดขึ้นในจิตใจ
- ทำให้ตระหนักถึงความต้องการที่จะต้องศึกษามากยิ่งขึ้น
ข้อจำกัด
- เป็นการอยากที่จะทำให้ทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมได้
- จะต้องมีความชำนาญในการใช้เทคโนโลยีหลายๆ อย่าง
สาระสำคัญของอีเลิร์นนิง
ความหมายโดยสรุป ของ E-learning
การใช้ทรัพยากรต่างๆ ในระบบอินเทอร์เน็ต มาออกแบบและจัดระบบ เพื่อสร้างระบบการเรียนการสอน โดยการสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย ตรงกับความต้องการของผู้สอนและผู้เรียน เชื่อมโยงระบบเป็นเครือข่ายที่สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา และทุกคน" โดยสามารถพิจารณาได้จากคุณลักษณะ ดังนี้
- เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
- เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องการเนื้อหารายวิชาใด วิชาหนึ่งเป็นอย่างน้อย หรือการศึกษาตามอัธยาศัย
- ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตนเอง จากทุกที่ทุกเวลาโดยอิสระ
- ผู้เรียนมีอิสระในการเรียน การบรรลุจุดประสงค์การเรียนรู้แต่ละเนื้อหา ไม่จำเป็นต้องเหมือนกับ หรือพร้อมกับผู้เรียนรายอื่น
- มีระบบปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน และสามารถเรียนรู้ร่วมกันได้
- มีเครื่องมือที่วัดผลการเรียนได้
- มีการออกแบบการเรียนการสอนอย่างมีระบบ
- ผู้สอนมีสภาพเป็นผู้ช่วยเหลือผู้เรียน ในการค้นหา การประเมิน การใช้ประโยชน์จากเนื้อหา จากสื่อรูปแบบต่างๆ ที่มีให้บริการ
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า E-learning เป็นระบบการเรียนการสอนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเว็บ และเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีสภาวะแวดล้อมที่สนับสนุนการเรียนรู้อย่างมีชีวิตชีวา (Active Learning) และการเรียนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Child Center Learning) ผู้เรียนเป็นผู้คิด ตัดสินใจเรียน โดยการสร้างความรู้และความเข้าใจใหม่ๆ ด้วยตนเอง สามารถเชื่อมโยงกระบวนการเรียนรู้ให้เข้ากับชีวิตจริง ครอบคลุมการเรียนทุกรูปแบบ ทั้งการเรียนทางไกล และการเรียนผ่านเครือข่ายระบบต่างๆ
ข้อดี - ข้อเสียของการเรียนการสอนผ่านเว็บ
ข้อดี
- เอื้ออำนวยให้กับการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็ว ไม่จำกัดเวลาและสถานที่ รวมทั้งบุคคล
- ผู้เรียนและผู้สอนไม่ต้องการเรียนและสอนในเวลาเดียวกัน
- ผู้เรียนและผู้สอนไม่ต้องมาพบกันในห้องเรียน
- ตอบสนองความต้องการของผู้เรียน และผู้สอนที่ไม่พร้อมด้านเวลา ระยะทางในการเรียนได้เป็นอย่างดี
- ผู้เรียนที่ไม่มีความมั่นใจ กลัวการตอบคำถาม ตั้งคำถาม ตั้งประเด็นการเรียนรู้ในห้องเรียน มีความกล้ามากกว่าเดิม เนื่องจากไม่ต้องแสดงตนต่อหน้าผู้สอน และเพื่อนร่วมชั้น โดยอาศัยเครื่องมือ เช่น E-Mail, Webboard, Chat, Newsgroup แสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ
ข้อเสีย
- ไม่สามารถรับรู้ความรู้สึก ปฏิกิริยาที่แท้จริงของผู้เรียนและผู้สอน
- ไม่สามารถสื่อความรู้สึก อารมณ์ในการเรียนรู้ได้อย่างแท้จริง
วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ตัวอย่างแผนประกอบการสอน
แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่
๒ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา
๒๕๕๔
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่องคำแสนสนุก เวลา ๓ ชั่วโมง
เรื่อง คำคล้องจอง เวลา ๑ ชั่วโ
มาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ ๑ การอ่าน
มาตรฐาน ท. ๑.๑ : ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ
แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท. ๒.๑: ใช้ทักษะการเขียนสื่อสาร
เขียนเรียงความ ย่อความ
และเขียนเรื่องราวในรูปแบบต่างๆเขียนรายงานข้อมูลสาระสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวชี้วัด มฐ.ท ๑.๑ ป.๒/๑ การอ่านออกเสียงคำ คล้องจอง
และข้อความ และบทร้อยกรองง่ายๆได้ถูกต้อง
มฐ.ท
๒.๑ ป.๒/๑ คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด
สาระสำคัญ
คำคล้องจอง คือ
คำที่ใช้สระเดียวกันและมีตัวสะกดอยู่มาตราเดียวกัน แต่มีพยัญชนะต้นต่างกัน
จุดประสงค์
๑. สามารถอ่านและเขียนคำที่คล้องจองได้อย่างถูกต้อง
๒.เมื่อกำหนดคู่คำคล้องจองให้นักเรียนสามารถบอกได้ว่าคำคู่ใดเป็นคำคล้องจองหรือไม่ใช่คำคล้องจอง
๓.เมื่อกำหนดชุดคำคล้องจองให้นักเรียนสามารถโยงเส้นคำที่ส่งสัมผัสคล้องจองกันได้ถูกต้อง
๑ . ความรู้ ( K )
๒.
สามารถเรียนรู้คำคล้องจอง 1 พยางค์ 2
พยางค์ และคำคล้องจองหลายพยางค์ได้
๒.
ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด(P)
๑.การอ่านและการเขียน
๓. คุณลักษณะ(A)
๑.สามารถอ่านและเขียนคำคล้องจองได้
สมรรถนะสำคัญ
๑.มีความสามารถในการสื่อสาร
๒.มีความสามารถในการคิด
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
๑.มีวินัย
๒.ใฝ่เรียนรู้
๓.มุ่งมั่นในการทำงาน
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
วิธีวัดและเครื่องมือวัด
เป้ามายการเรียนรู้
|
หลักฐานผลการเรียนรู้
|
วิธีการวัด
|
เครื่องมือวัด
|
สาระสำคัญ
คำคล้องจอง คือ
คำที่ใช้สระเดียวกันและมีตัวสะกดอยู่มาตราเดียวกัน แต่มีพยัญชนะต้นต่างกัน
|
-ผลการทดสอบการอ่านคำคล้องจอง
|
-ทดสอบการอ่านคำที่คล้องจอง
|
-แบบทดสอบการอ่านคำที่คล้องจอง
|
ตัวชี้วัด
มฐ.ท
๑.๑ ป.๑/๑ การอ่านออกเสียงคำ คล้องจอง
และข้อความสั้น ๆ
|
-ผลการทดสอบอ่านคำจากบัตรคำ
|
-ครูฟังจากการอ่านของนักเรียน
|
-แบบทดสอบการอ่านคำจากบัตคำ และPowerPoint
|
มฐ.ท
๒.๑ ป.๑/๑ คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด
|
-ผลการทดสอบการเขียนคำที่คล้องจอง
-ทดสอบโยงคำจากภาพที่มีคำคล้องจองกัน
|
-ทดสอบการเขียนคำที่คล้องจอง
-ทดสอบโยงคำจากภาพที่มีคำคล้องจองกัน
|
-แบบทดสอบการเขียนคำที่คล้องจอง
-แบบทดสอบโยงคำจากภาพที่มีคำคล้องจองกัน
|
คุณลักษณะ
๑.สามารถอ่านและเขียนคำที่คล้องจองได้อย่างถูกต้อง
|
-ผลการทดสอบอ่านคำจากบัตรคำ
-
ผลการทดสอบเขียนคำที่คล้องจอง
-ผลการทดสอบโยงคำจากภาพที่มีคำคล้องจองกัน
|
-ครูฟังจากการอ่านของนักเรียน
-สอบการเขียนคำที่คล้องจอง
-ทดสอบโยงคำจากภาพที่มีคำคล้องจองกัน
|
-แบบทดสอบการอ่านคำจากบัตรคำ
-แบบทดสอบการเขียนคำที่คล้องจอง
-แบบทดสอบโยงคำจากภาพที่มีคำคล้องจองกัน
|
กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำสู่บทเรียน
๑.
ครูอธิบายจุดประสงค์ของการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนทราบถึงเนื้อหาสาระที่จะเรียน
๒.
ครูเปิดวิดีโอเรื่องคำคล้องจองให้นักเรียนดู
ขั้นการสอน
๑.
ครูเปิด PowerPointสอนนักเรียนอ่านคำคล้องจองทีละคำจากคำที่ง่ายไปหาคำที่ยาก
แล้วให้นักเรียนอ่านคำตามที่ครูสอน
๒.
ครูทดสอบความเข้าใจของนักเรียนเป็นรายบุคคล
โดยให้แต่ละคนออกมาอ่านคำคล้องจองตามที่ครูกำหนดทีละคำ
ขั้นการประเมินผลการเรียนรู้
/ ขั้นสรุปการสอน
๑.ให้นักเรียนทำแบบทดสอบ
-แบบทดสอบอ่านคำจากบัตรคำ
-แบบทดสอบเติมคำที่หายไปให้สมบูรณ์
-แบบทดสอบโยงคำที่มีความหมายคล้องจองกัน
๒ . ครูมอบหมายให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากแหล่งอินเตอร์เน็ต
สื่ออุปกรณ์และแหล่งเรียนรู้
สื่อ
๑.บัตรคำ
คำคล้องจอง
๒.แบบฝึกหัดเติมคำคล้องจองที่หายไป
๓.แบบฝึกหัดโยงคำจากภาพที่มีคำคล้องจองกัน
๔. วิดีโอเรื่องคำคล้องจอง
๕. PowerPoint อ่านคำคล้องจอง
แหล่งเรียนรู้
๑.ห้องเรียน
๒. อินเตอร์เน็ต
เกณฑ์การวัด
เกณฑ์การประเมินการทำแบบทดสอบ
๑ . แบบทดสอบการอ่านคำจากบัตรคำที่คล้องจอง
-อ่านถูกต้อง
คำละ ๑
คะแนน (คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน)
-ต่ำกว่า ๕ คะแนน ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน
๒ . แบบทดสอบเติมคำคล้องจองที่หายไป
-อ่านถูกต้อง
คำละ ๑
คะแนน (คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน)
-ต่ำกว่า ๕ คะแนน ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน
๓ . แบบทดสอบโยงคำจากภาพที่มีคำคล้องจองกัน
-อ่านถูกต้อง
คำละ ๑
คะแนน (คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน)
-ต่ำกว่า ๕ คะแนน ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน
เกณฑ์การผ่าน
๑ . นักเรียนได้คะแนนในการทำแบบทดสอบทั้งสามมารวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ ของคะแนนเต็ม
วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ นางสาวปวีณา
ก๋าสม
ชื่อเล่น เมย์
ชื่อเล่น เมย์
รหัสนักศึกษา 53181010125
วันเกิด 17 มีนาคม 2535
ที่อยู่ 38 หมู่ 7 ต.วังทรายคำ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง
เบอร์โทร 086 - 0583145
จบจาก โรงเรียนวังเหนือวิทยา
E -
mail loveMay_paweena@hotmail.com
คติประจำใจ อย่าพูดว่าทำไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้ทำ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)